5 เทคนิคทำโฆษณา Google Ads ด้วยต้นทุน “นิดเดียว”

5 เทคนิคทำโฆษณา Google Ads ด้วยต้นทุน “นิดเดียว”

สวัสดีครับเพื่อนๆ ผู้ประกอบการทุกท่าน! วันนี้เรามีเรื่องน่าสนใจที่อยากจะแบ่งปันกับทุกคนเกี่ยวกับการทำโฆษณา Google Ads โดยใช้งบประมาณที่จำกัด น่าเสียดายที่หลายๆ คนยังมีความกลัวและกังวลกับการลงทุนเพื่อทำโฆษณา Google Ads กลัวว่าผลลัพธ์ที่ได้จะไม่คุ้มค่ากับเงินที่ใช้ลงทุนไป จนไม่กล้าคิดที่จะเริ่มทำการตลาดอย่างจริงจัง แต่ในความเป็นจริง การทำโฆษณา Google Ads มันไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด คุณไม่จำเป็นต้องกลัวว่าจะต้องเสียเงินมากมาย เป็นหมื่น เป็นแสน ไปกับการลงทุน เพราะมันไม่มีการกำหนดงบประมาณขั้นต่ำ!

1. กำหนดงบประมาณเท่าที่จ่ายได้

ก่อนที่เราจะเริ่มต้นสร้างแคมเปญ คุณต้องลองสำรวจตัวเองดูก่อนว่า คุณสามารถตั้งงบประมาณขั้นต่ำต่อวันได้มากเท่าไหร่ เอาตามที่สามารถจ่ายได้อาจจะลองคิดเป็นเดือนก่อน แล้วหารด้วยจำนวนวันก็ได้ เช่นกำหนดไว้ที่ 6,000 ต่อเดือน ก็จะตกอยู่ที่ วันละ 200 บาท

วิธีประเมิน ให้คุณเปิด Keyword Planner ขึ้นมาแล้วใส่ Keyword ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ หรือเว็บไซต์ของคุณลงไป

2. ใช้ Keyword ที่เฉพาะเจาะจง

เดิมทีการทำโฆษณา Google Ads เราจะเลือก Keyword ที่ตรงกับธุรกิจ และเป็นคำที่มีจำนวนการค้นหาสูง หลายๆ คำ เพื่อดึงลูกค้าเข้าเว็บไซต์ให้มากที่สุด นั่นคือแคมเปญแบบปกติทั่วไป แต่สำหรับแคมเปญที่ใช้งบน้อย การเลือก Keyword จะแตกต่างจากแคมเปญโฆษณาทั่วไป เพราะงบประมาณที่จำกัดนี้ การใช้ Keyword มากๆ จะทำให้เราเสียเงินไปอย่างรวดเร็ว!

หากคุณต้องการทำโฆษณางบน้อยๆ ให้มีประสิทธิภาพ คุณต้องเลือกใช้ Keyword ที่คุ้มค่ากับธุรกิจของคุณให้มากที่สุด

3. สร้าง Ad Group สำหรับ 1 Keyword

เมื่อคุณได้ Keyword ที่ต้องการแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็คือการสร้าง Ad Group สำหรับ 1 Keyword ของเรา การใส่ Keyword ใน Ad Group นี้จะโฟกัสไปที่การใช้ Keyword เพียง 1 คำ เท่านั้น! พร้อมกำหนดรูปแบบการทำงานของ Keyword

-Broad match modifier : +Keyword

-Phrase match : “Keyword”

-Exact match : [Keyword]

ทำไมเราต้องใส่ Keyword ลงใน Ad Text? คำตอบคือ เพื่อเพิ่มคะแนนคุณภาพ (Quality Score) เพราะ Quality Score เป็นปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งที่คอยกำหนดว่า โฆษณาของเราจะอยู่ในอันดับที่เท่าไหร่ และแสดงบ่อยแค่ไหน ที่สำคัญ การทำ Quality Score ให้สูงขึ้นยังทำให้ค่าคลิกของเราถูกลงอีกด้วย

4. ใช้การเสนอราคาแบบ ECPC (Enhanced Cost Per Click)

Google Ads นั้นจะมีรูปแบบการเสนอราคาให้เราเลือกด้วย โดยคนส่วนใหญ่ที่ห็น Maximize conversions (เน้นซื้อ เน้นติดต่อเยอะๆ) หรือ maximize clicks (เน้นจำนวนคลิกเยอะๆ) ก็จะรีบเลือก 2 อย่างนี้ทันที

-ECPC (Enhanced Cost Per Click) เป็นวิธีการเสนอราคาที่จะปรับราคาให้สูงขึ้นเมื่อเจอกับคลิกที่มีแนวโน้มว่าจะเกิดเป็น Conversion เป็นการบริหารเงินของเราให้เหมาะสมที่สุด และจะปรับลดราคาลงเมื่อเจอคลิกที่มีโอกาสซื้อน้อย หรือเจอกับคู่แข่งที่มีทุนสูง (เลือกจ่ายอย่างฉลาด) การเสนอราคาประเภทนี้จะช่วยให้เงินของคุณไม่สูญเปล่า

-Maximize conversions ที่จะปรับการเสนอของเราให้สูงขึ้นตามการแข่งขัน โดยจะไม่เกินงบที่เราตั้งเอาไว้ (มีแค่ไหนก็จ่าย แต่ไม่เกินงบ)

เว็บไซต์ ppchero.com ได้ทดสอบกลยุทธ์การเสนอราคาของ Google Ads เพื่อเปรียบเทียบดูว่า การเสนอราคาแบบไหนจะทำงานได้ดีกว่ากัน ผลลัพธ์ที่ได้คือ Maximize Click ได้จำนวนคลิกมากที่สุด และสามารถสร้าง Conversion ได้ เมื่อเปรียบเทียบกับ ECPC แม้จะได้คลิกน้อยกว่า แต่สามารถสร้าง Conversion ได้มากกว่า ด้วยงบที่ถูกว่าด้วย เหมาะกับแคมเปญที่ใช้งบน้อยแบบเราจริงๆ แต่ก่อนที่จะใช้ ECPC ได้ เราต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์ เพื่อให้ โฆษณา Google Ads ของเราได้เรียนรู้ และเพิ่มประสิทธิภาพให้กับแคมเปญของเราเสียก่อน

5. สร้างหน้าเพจเพื่อรองรับโฆษณาโดยเฉพาะ

สิ่งสำคัญที่จะทำให้โฆษณา สามารถสร้างผลลัพธ์ที่ดีได้ก็คือ Landing Page ต้องตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า สาเหตุที่ให้การทำ โฆษณา Google Ads ไม่ได้ผลนั้น ส่วนใหญ่มาจาก Landing Page (หน้าเพจ) ที่ไม่มีประสิทธิภาพ ไม่ตอบโจทย์ คลิกเข้ามาแล้วไม่เจอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ  อยากให้คุณลองมองในมุมของลูกค้าดูว่า เมื่อคุณเสิร์ชหาสินค้าบน Google แล้วคลิกเข้ามาที่เว็บไซต์.. คุณต้องการเห็นอะไร ต้องการเข้ามาดูสินค้าอื่นๆ หรือ ต้องการเข้ามาดูสินค้าที่คุณต้องการ พร้อมข้อมูลที่ช่วยประกอบการตัดสินใจ โฆษณา Google Ads สามารถกระตุ้นยอดขาย และเพิ่มกำไรให้ธุรกิจได้จริง เพียงแค่เราต้องอาศัยการลงทุนบ้าง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีกลับคืนมา น่าเสียดายที่หลายคนพลาดโอกาสดีๆ แบบนี้ไปเพราะไม่อยากเสียเงิน หรือกลัวขาดทุน

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *


The maximum upload file size: 2 GB.
You can upload: image.