3 ข้อสำคัญที่ทำให้เว็บไซต์ไม่ติดหน้าแรกของ Google

3 ข้อสำคัญที่ทำให้เว็บไซต์ไม่ติดหน้าแรกของ Google

การทำให้เว็บไซต์ติดหน้าแรก Google มีด้วยกัน 2 ทางเลือกหลัก ๆ ดังนี้

1. เสียเงินกับการ ทำโฆษณา Google Ads

ในโลกแห่งการค้นหาออนไลน์ การเสียเงินเพื่อโฆษณาบน Google Ads เป็นทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ แต่หากคุณต้องการแบบอื่น ๆ ที่ไม่เสียเงิน ติดตามเราต่อไปเลย

2. ไม่ต้องเสียเงินกับการโฆษณา ด้วยการปรับปรุง content บนหน้าเว็บแบบออร์แกนิค (SEO)

ก่อนที่เราจะเข้าสู่รายละเอียดของเหตุผลที่เว็บไซต์ของคุณอาจไม่ติดหน้าแรก Google ได้ คุณจำเป็นต้องรู้ว่าเว็บไซต์ของคุณมีอยู่ใน Google Search Engine จริงหรือไม่ ถ้า Google ไม่รู้ว่าคุณมีเว็บไซต์ มันก็จะยากสำหรับคุณในการติดอันดับดีขึ้นในผลการค้นหา

การทำให้เว็บไซต์ของคุณติดหน้าแรกของ Google เป็นเรื่องที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในยุคนี้ เพราะมีผลต่อการเสริมสร้างองค์กรและธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน และมีโอกาสในการแสดงความเป็นเลิศของคุณให้กับโลกได้อย่างเหมาะสม 

วิธี basic ในการเช็คเว็บไซต์ของคุณว่ามีตัวตนจริงหรือไม่

เริ่มต้นด้วยการเข้า Google แล้วป้อน “site:ชื่อเว็บไซต์ของคุณ.com” ในช่องค้นหา (ตัวอย่างเช่น site: makewebeasy.com) แล้วกดค้นหา ถ้าคุณต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการนี้ สามารถอ่านบทความ “ทำไมหน้าเว็บของฉันจึงหายไปจาก Google Search” จาก Google ได้  เมื่อคุณตรวจสอบเว็บไซต์แล้วและไม่พบปัญหาใด ๆ คุณสามารถเริ่มดูที่ 3 เหตุผลที่เว็บไซต์ของคุณไม่ติดอันดับ Google ต่อไป

1. เว็บไซต์เพิ่งสร้าง หรือมีการเปลี่ยนแปลงใหม่

เริ่มแรกเราต้องเข้าใจว่าเมื่อเว็บไซต์ของคุณเป็นเว็บไซต์ใหม่ หรือมีการเปลี่ยนแปลงหน้าเว็บไซต์ใหม่ คุณจำเป็นต้องให้เวลาในการรอให้ Google รับรู้และดัชนีเว็บไซต์ของคุณ ประมาณ 1 – 3 เดือน โดย GoogleBot จะรวบรวมข้อมูลและจัดทำดัชนีโดยอัตโนมัติ ถ้าคุณไม่อยากรอนานนี้ คุณสามารถส่ง Sitemap หรือส่งคำขอรับการจัดทำดัชนีให้กับ Google Search Console ซึ่งจะทำให้เว็บไซต์ของคุณปรากฏในผลการค้นหาได้เร็วขึ้น

2. หน้าเว็บไซต์ไม่ถูกต้องตามนโยบายของ Google Search

Google ตรวจจับทุกคอนเทนต์และพฤติกรรมของเว็บไซต์ที่ละเมิดนโยบาย Google Search และนโยบายสแปม อัตโนมัติ และด้วยการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ (หากจำเป็น) ถ้าเว็บไซต์ของคุณละเมิดนโยบาย ผลที่ตามมาคือ เว็บไซต์ของคุณจะมีอันดับต่ำหรือไม่แสดงเลยในผลการค้นหา ดังนั้น คุณจำเป็นต้องตรวจสอบอย่างละเอียดในแต่ละประเด็นที่ Google ตรวจสอบ และปรับแก้ให้เป็นไปตามนโยบาย Google Search เพื่อทำให้เว็บไซต์ของคุณติดหน้าแรกของ Google ได้

3. หน้าเว็บไซต์ไม่เอื้อต่อการค้นหา

สุดท้าย เรามาพูดถึงเรื่องของการทำให้หน้าเว็บไซต์ของคุณเอื้อต่อการค้นหา มี 7 ข้อหลักๆ ที่คุณควรพิจารณา

1. ไม่สอดคล้องกับ Search Intent

Search Intent คือคำหรือวลีที่ผู้คนใช้ในการค้นหาคำตอบใน Google การที่เว็บไซต์ของคุณไม่สอดคล้องกับ Search Intent คือการลดโอกาสในการติดหน้าแรกของ Google ในทางกลับกัน ถ้าคุณให้ความสำคัญในการให้ข้อมูลที่ตรงกับความต้องการของผู้ค้นหา คุณกำลังทำให้เว็บไซต์ของคุณมีโอกาสติดอันดับสูงขึ้น

2. สร้าง Content ที่ไม่มีคุณค่า

ถ้าหน้าเว็บของคุณมีเนื้อหาที่ไม่มีคุณค่า ซึ่งหมายถึงรูปภาพ วิดีโอ และบทความที่ไม่ช่วยแก้ปัญหาหรือไม่มีประโยชน์ต่อผู้ใช้ การที่เว็บไซต์ของคุณไม่เอื้อต่อการค้นหาคือเรื่องที่สำคัญ หากเรามีเนื้อหาที่ไม่มีคุณค่า นั่นอาจมาจากการใช้วิธีที่ไม่ถูกต้องในการเพิ่มความสูงให้เว็บไซต์ของเราในผลการค้นหา

3. URL, Title, และ Headline ของหน้าเว็บไม่สอดคล้องกัน

URL, Title, และ Headline ของหน้าเว็บไซต์ของคุณเป็นส่วนสำคัญที่ Google ให้ความสำคัญ คุณควรตรวจสอบและให้ความสำคัญกับการสร้าง URL, Title, และ Headline ที่สอดคล้องกัน เพราะถ้าเราทำให้เหล่านี้ตรงกัน จะช่วยเพิ่มโอกาสในการติดหน้าแรกของ Google

4. ไม่มี Internal Link และ External Link ที่ดี

การที่เว็บไซต์ของคุณไม่มี Internal Link และ External Link ที่ดี หรือไม่มีเลย จะส่งผลกระทบอย่างมากต่อ SEO ของเว็บไซต์ของคุณ เพราะ Google ระบบจะพิจารณา Internal Link และ External Link เป็นตัวบ่งชี้ความเกี่ยวข้องและความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์

5. เว็บไซต์ไม่ได้อัพเดทนานเกินไป

การอัพเดทเนื้อหาและดีไซน์เว็บไซต์เป็นสิ่งสำคัญในการรักษาตำแหน่งใน Google และความสำเร็จของเว็บไซต์ของคุณ การที่เว็บไซต์ของคุณไม่ได้อัพเดทนานเกินไป อาจทำให้ผู้เข้าชมกลับไปหาข้อมูลจากแหล่งอื่นแทน

6. เว็บโหลดช้า

ความเร็วในการโหลดหน้าเว็บไซต์เป็นปัจจัยสำคัญในการรักษาตำแหน่งใน Google ถ้าหน้าเว็บของคุณโหลดช้า ผู้ค้นหาอาจกดออกไปหาเว็บอื่นทันที ซึ่งจะมีผลกระทบต่อ SEO ของเว็บไซต์ของคุณ

7. เว็บไซต์ไม่เป็น Mobile Responsive

การที่เว็บไซต์ของคุณไม่รองรับการใช้งานจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ เช่น สมาร์ทโฟน อาจส่งผลกระทบอย่างมากต่อการติดหน้าแรกของ Google ซึ่งต้องระบุว่า Google ให้ความสำคัญกับการใช้งานบนอุปกรณ์เคลื่อนที่

สรุป

หากคุณต้องการให้เว็บไซต์ของคุณติดหน้าแรกของ Google คุณต้องรักษาคุณภาพและความเกี่ยวข้องของเนื้อหา ตรวจสอบนโยบายของ Google และปรับปรุงเว็บไซต์ของคุณให้สอดคล้องกับเกณฑ์ที่ Google ต้องการ อีกทั้งควรใส่ความสำคัญในเรื่อง URL, Title, และ Headline และสร้าง Internal Link และ External Link ที่ดี อย่าลืมอัพเดทเว็บไซต์ของคุณอย่างต่อเนื่องและให้เว็บไซต์ของคุณรองรับการใช้งานบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ เราหวังว่าคำแนะนำเหล่านี้จะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณมีโอกาสติดหน้าแรกของ Google มากยิ่งขึ้น ไม่ว่าคุณจะเลือกวิธีใด ๆ แต่ควรรักษาความพยายามและการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องเพื่อรักษาตำแหน่งของคุณในผลการค้นหา Google ให้เสมอ 

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *


The maximum upload file size: 2 GB.
You can upload: image.