SOAR คืออะไร? เครื่องมือที่ช่วยวางแผนธุรกิจคุณได้ดีกว่า SWOT

SOAR คืออะไร? เครื่องมือที่ช่วยวางแผนธุรกิจคุณได้ดีกว่า SWOT

เครื่องมือ SOAR Analysis (ซออาร์ อะนาไลซิส) เป็นเครื่องมือที่กำลังได้รับความนิยมในวงการธุรกิจในปัจจุบัน เนื่องจากความเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจที่รวดเร็ว การวางแผนและวิเคราะห์แบบเดิมๆ ด้วย SWOT Analysis (สวอต อะนาไลซิส) อาจไม่เพียงพอต่อการทำนายแนวโน้มและตั้งเป้าหมายในอนาคตของธุรกิจของคุณ ในบทความนี้เราจะพาคุณไปรู้จักกับ SOAR Analysis และความแตกต่างของมันเมื่อเทียบกับ SWOT Analysis

SOAR คืออะไร?

เครื่องมือ SOAR Analysis (ซออาร์ อะนาไลซิส) เป็นเครื่องมือที่กำลังได้รับความนิยมในวงการธุรกิจในปัจจุบัน เนื่องจากความเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจที่รวดเร็ว การวางแผนและวิเคราะห์แบบเดิมๆ ด้วย SWOT Analysis (สวอต อะนาไลซิส) อาจไม่เพียงพอต่อการทำนายแนวโน้มและตั้งเป้าหมายในอนาคตของธุรกิจของคุณ 

SOAR ต่างจาก SWOT อย่างไร?

SWOT Analysis

SWOT Analysis เป็นเครื่องมือที่ทั่วไปและมีประสิทธิภาพในการวิเคราะห์สภาพแวดล้อมภายในและภายนอกขององค์กร แต่มันมักจะไม่มีขั้นตอนที่ชัดเจนในการนำไปสู่เป้าหมาย มันแค่ให้ภาพรวมโดยทั่วไปเท่านั้น ซึ่งเป็นการวิเคราะห์เพียงภาพรวมกว้าง ๆ ไม่ได้มีวิธีการหรือขั้นตอนที่นำไปสู่เป้าหมาย 

SWOT Analysis มีข้อจำกัดที่สำคัญ คือการไม่สามารถเชื่อมโยงกับวิสัยทัศน์ (Vision) และเป้าหมายในอนาคต (Goals) ของหน่วยงานหรือองค์กรได้ มันมุ่งเน้นไปที่สภาพแวดล้อมภายในและภายนอกในขณะที่ขาดขั้นตอนที่ชัดเจนในการนำไปสู่เป้าหมาย ทำให้ผลลัพธ์ที่ได้อาจจะไม่ได้ดีตามที่คาดหวัง และมักมีมุมมองจากกลุ่มเดียวในองค์กรที่อาจไม่สามารถเห็นภาพรวมอย่างครบถ้วน

SOAR Analysis

SOAR Analysis นำหลักการของ SWOT มาผสมผสานกับวิธีคิดแบบ Appreciative Inquiry หรือ “AI” โดย SOAR จะเน้นการตั้งคำถามเชิงบวกกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกคนในองค์กร เพื่อค้นหาแนวทางที่ดีที่สุดในการปฏิบัติ เป็นกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นการรวมพลังทุกคนในองค์กรเข้าด้วยกันในกระบวนการวางแผน

ขั้นตอน SOAR Analysis

การวางแผนโดยใช้ SOAR Analysis นั้นมีขั้นตอนที่ครบถ้วน เพื่อให้แน่ใจว่าคำถามเชิงบวกที่เราใช้นั้น นำไปสู่ผลดีที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจริง ๆ และเป็นไปตามวิสัยทัศน์ของหน่วยงานหรือองค์กร

1.Strength (จุดแข็ง)

การวิเคราะห์หาจุดเด่นที่ทำได้ดีหรือปัจจัยต่าง ๆ ที่ส่งเสริมให้เกิดความแตกต่างและสร้างข้อได้เปรียบทางธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นระบบองค์กร สินค้าและบริการ หรือการทำงานของทีมงาน เช่น ส่วนแบ่งทางการตลาด (Market Share) ที่สูงกว่าคู่แข่ง เงินทุนจำนวนมากสำหรับการลงทุนและขยายกิจการ สถานที่ตั้งอยู่ใกล้ BTS/MRT มีผู้คนผ่านจำนวนมาก เป็นต้น

2.Opportunity (โอกาส)

โอกาสทางธุรกิจคือสิ่งที่ส่งผลดีต่อการดำเนินงาน การสร้างรายได้และการทำกำไรเพิ่มขึ้น หรือแม้กระทั่งประสิทธิภาพในการทำงานที่ดีขึ้นก็ได้เช่นกัน โดยเป็นปัจจัยจากภายนอกที่เกิดขึ้นเองและมักมีการเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา ซึ่งโดยส่วนมากแล้วไม่ได้เกิดขึ้นตลอดไป เช่น เทรนด์ของผู้บริโภค นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล เป็นต้น

3.Aspiration (แรงบันดาลใจ)

การตอบคำถามว่าแรงบันดาลใจขององค์กรคืออะไรก็เปรียบเสมือนการวางเป้าหมายขององค์กร เพื่อให้เห็นภาพที่ชัดเจนว่าสุดท้ายแล้วอะไรคือสิ่งที่องค์กรต้องการ หรือเป็นสิ่งที่องค์กรนั้นจำเป็นต้องให้สำเร็จ สำหรับเตรียมพร้อมวางแผนการดำเนินงานให้ชัดเจนไม่กำกวม เพื่อให้ธุรกิจเดินหน้าต่อไปอยู่เสมอ เช่น การตั้งเป้ายอดขายเกิน 50,000 ล้านบาทต่อปี จากเดิมที่ปีละ 10,000 ล้านบาท เป็นต้น

4.Result (ผลลัพธ์)

เป็นสิ่งที่ต่อยอดมาจากเป้าหมายขององค์กรเพื่อใช้ในการวัดผลการดำเนินงาน ซึ่งต้องเป็นสิ่งที่วัดเป็นตัวเลขหรือจับต้องได้ ทำหน้าที่เหมือนกับ KPI result ในการวัดผลของเป้าหมายหรือ Aspiration ที่ต้องวัดว่าจะสามารถบรรลุได้อย่างไรบ้าง เช่น ระยะเวลาของการดำเนินงาน จำนวน Project หรือ Initiatives ที่ต้องทำให้สำเร็จต่อปีเพื่อให้บรรลุเป้าหมายหลัก เป็นต้น

การวางแผนเชิงกลยุทธ์ด้วย SOAR

ซึ่งบางครั้งก็เป็นเหมือนกับการตรวจสอบอีกครั้งว่าเป้าหมายองค์กรที่ตั้งไว้ สามารถวัดผลได้จริงหรือไม่ เมื่อได้ข้อมูลครบถ้วนแล้ว สิ่งที่ต้องทำในขั้นต่อไปคือ การวางแผนเชิงกลยุทธ์ ซึ่งก็ต้องมีการวัดผล SOAR Analysis ระหว่างทางอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้แน่ใจว่าคำถามเชิงบวกที่เราใช้นั้น นำไปสู่ผลดีที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจริง ๆ

เมื่อคุณรู้จัก SOAR และการนำมันไปใช้ในการวางแผนธุรกิจของคุณ คุณจะสามารถทำให้ธุรกิจของคุณเติบโตและประสบความสำเร็จได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะ SOAR ช่วยให้คุณเน้นที่ความแตกต่างและโอกาสที่เป็นประโยชน์อย่างมากขึ้น และสร้างแรงบันดาลใจในทีมงานของคุณให้มุ่งมั่นสู่เป้าหมายขององค์กร

การประยุกต์ใช้ SOAR Analysis

การนำ SOAR Analysis ไปประยุกต์ใช้ในสถานการณ์จริง คือการตั้งคำถามเชิงบวกในแต่ละประเด็น และสอบถามผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกคนในองค์กร จากนั้นนำข้อมูลมาร้อยเรียงตามตัวชี้วัด 4 ตัว คือ Strength, Opportunity, Aspiration, และ Result  เมื่อได้ข้อมูลครบถ้วนแล้ว การวางแผนเชิงกลยุทธ์จะเป็นไปอย่างชัดเจนและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดย SOAR Analysis จะต้องรองรับการวัดผลอย่างต่อเนื่องเพื่อให้แน่ใจว่าคำถามเชิงบวกที่ใช้นำไปสู่ผลดีที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจริงๆ

ในโลกธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การใช้เครื่องมือ SOAR Analysis เพื่อวางแผนธุรกิจของคุณอาจจะเป็นก้าวสำคัญในการรักษาความแข็งแกร่งและความยืดหยุ่นขององค์กรของคุณอย่างเหนือกว่าผู้แข่งขันและสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างไม่หยุดนิ่ง

สรุป

SOAR คือเครื่องมือที่ช่วยให้คุณวางแผนธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นเมื่อเทียบกับ SWOT Analysis โดยให้ความสำคัญกับความแตกต่างและโอกาสที่มีให้กับองค์กรของคุณ โดยใช้ขั้นตอนที่ละเอียดและการวัดผลตลอดเวลา ดังนั้น หากคุณต้องการวางแผนองค์กรหรือธุรกิจของคุณให้ประสบความสำเร็จ คุณอาจต้องพิจารณาการใช้ SOAR Analysis เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่มีประสิทธิภาพและมีประสิทธิผลสูง

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *


The maximum upload file size: 2 GB.
You can upload: image.