Search Engine คืออะไร? และช่วยให้ธุรกิจออนไลน์โตขึ้นได้อย่างไร
Search Engine คืออะไร? และช่วยให้ธุรกิจออนไลน์โตขึ้นได้อย่างไร
Search Engine คือเครื่องมือหรือโปรแกรมสำหรับค้นหาข้อมูลบนโลกอินเตอร์เน็ต โดยจะแสดงผลลัพธ์เป็นเว็บไซต์ รูปภาพ วิดีโอ แผนที่ ตามคำค้นหาหรือ Keyword ของผู้ใช้งาน ข้อมูลที่นำมาแสดงจะมาจากฐานข้อมูลของ Search Engine เจ้านั้นๆ และมีการใช้อัลกอริธึมในการจัดอันดับผลลัพธ์ที่เหมือนๆ กันอยู่ดี (ที่ต่างกันจริงๆ คงมีแค่เรื่องฟีเจอร์และความนิยมในประเทศนั้นๆ)
Search Engine ทำงานยังไง?
Search Engine ทุกๆ เจ้าจะมีหลักการทำงานพื้นฐานที่เหมือนกันอยู่ 3 ขั้นตอนคือ
1.Crawling (การเก็บข้อมูล)
การเก็บรวบรวมข้อมูลก่อนที่ Search Engine จะหาคำตอบมาให้กับเรา เขาจะต้องเก็บรวบรวมข้อมูลกันก่อน โดยใช้โปรแกรมที่เรียกว่า Web Crawlers (บางครั้งเรียกว่า Bot หรือ Spider) ติดตามไปยังลิงก์หรือเว็บไซต์ต่างๆ เพื่อเก็บข้อมูล URLs เนื้อหาเว็บไซต์ รูปภาพ และวิดีโอ เมื่อบอทเจอข้อมูลหรือหน้าเว็บไซต์ใหม่ มันจะสแกนและส่งข้อมูลกลับมาให้ฐานข้อมูล เพื่อจัดทำดัชนี และค้นหาหน้าเว็บใหม่ต่อไปเรื่อยๆ
2.Indexing (การจัดทำดัชนี)
เมื่อบอทเก็บข้อมูลเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการทำดัชนี ซึ่งจะเป็นขั้นตอนที่ Search Engine จะตรวจสอบ จัดเก็บ และเรียบเรียงข้อมูลเว็บไซต์ไว้ในฐานข้อมูลหลัก คล้ายกับการนำหนังสือเล่มมาจัดเก็บไว้ในห้องสมุดขนาดใหญ่ที่ใช้เก็บข้อมูลเว็บไซต์ทั้งหมดบนโลกใบนี้
3.Ranking (การจัดลำดับผลลัพธ์)
ขั้นตอนสุดท้ายก่อนที่ Search Engine จะนำคำตอบ หรือข้อมูลมาแสดงให้กับเรา คือการจัดลำดับเว็บไซต์เพื่อเลือกผลลัพธ์ที่ดีที่สุดมาให้กับเรา ซึ่งเกณฑ์ในการจัดอันดับของทุกเจ้า ส่วนใหญ่ยังคงถูกเก็บเป็นความลับอยู่ ถึงแม้เกณฑ์การจัดอันดับจะถูกเก็บเป็นความลับ แต่คนทำเว็บไซต์ และการตลาดออนไลน์ก็ยังมีการศึกษาเพื่อหาแนวทางทำให้เว็บไซต์ของตัวเองขึ้นไปติดอันดับในหน้าแรกของ Search Engine ให้ได้ โดยการติดตามข่าวสารอัพเดต และศึกษาอัลกอริธึมของ Search Engine จนเป็นที่มาของการทำ Search Engine Optimized (SEO)
5 อันดับ Search Engine ยอดนิยม
ที่คนทั่วโลกใช้ แน่นอนว่าอันดับ 1 ตกเป็นของ Google แต่เรามาลองทำความรู้จักกับ Search Engine ทั้ง 5 อันดับ กันดูว่า แต่ละตัวมีจุดเด่นอะไรกันบ้าง (เผื่อวันนึง Google ขัดข้อง จะได้มีตัวสำรอง)
1.Google
Google เป็น Search Engine ที่ใหญ่และครอบคลุมที่สุดในโลก ครองตลาดเสิร์ชเอ็นจิ้นด้วยส่วนแบ่งการตลาดกว่า 92% ทั่วโลก มีอัลกอริธึมที่เยอะและซับซ้อน การรวบรวมข้อมูล การจัดทำดัชนี และการจัดอันดับที่มีประสิทธิภาพ ให้ผลการค้นหาที่ดีเยี่ยม จนเป็น 1 ในเครื่องมือที่ชีวิตประจำวันของเราจะขาดไปไม่ได้
2.Microsoft Bing
Bing เป็นอันดับ 2 รองมาจาก Google ซึ่ง Microsoft เป็นเจ้าของ มีส่วนแบ่งตลาดของ Search Engine อยู่ที่ 2% – 3% เป็นอีกตัวเลือกที่ดี สำหรับคนที่อยากลองใช้งานเครื่องมือใหม่ๆ แต่ก็ยังมีความคล้ายคลึงกับ Google ในหลายๆ ด้าน โดยให้ผลการค้นหาเป็นเว็บไซต์ รูปภาพ วิดีโอ สถานที่ แผนที่ เหมือนกัน
3.Yahoo!
Yahoo เป็นอีก 1 เว็บไซต์ยอดนิยม ที่เป็นผู้ให้บริการอีเมล และเป็น Search Engine ที่ใหญ่เป็นอันดับสามของโลกอีกด้วย มีส่วนแบ่งตลาดโดยรวมเกือบ 2% ซึ่งครั้งหนึ่ง Yahoo ก็เคยเป็น Search Engine ที่ได้รับความนิยมมาก แต่ก็ลดลงในช่วงหลายปีที่ผ่านมาและถูก Google บดบังไป
4.Yandex
หลายคนอาจจะไม่คุ้นหูกัน เพราะ Yandex เป็น Search Engine ที่ได้รับความนิยมในประเทศฝั่งตะวันออก แม้ว่าจะมีส่วนแบ่งตลาดทั่วโลกโดยรวมแค่ 1% แต่ในประเทศจีน กลับมีส่วนแบ่งตลาดถึง 80% โดยมีการค้นหานับพันล้านครั้งทุกวัน
5.Baidu
Baidu เป็น Search Engine ที่นิยมมากที่สุดในประเทศจีน แม้ว่าส่วนแบ่งตลาดทั่วโลกโดยรวมจะอยู่ที่ 1% แต่ในประเทศจีน กลับมีส่วนแบ่งตลาดถึง 80% โดยมีการค้นหานับพันล้านครั้งทุกวัน
ธุรกิจสามารถสร้างยอดขายจาก Search Engine ได้อย่างไร?
เรารู้กันดีอยู่แล้วว่าคนที่มีปัญหา หรือมีความต้องการบางอย่างจะหาข้อมูลใน Search Engine ความต้องการนี้รวมไปถึงสินค้า และบริการอื่นๆ ด้วย หากลูกค้าเสิร์ชหาสินค้า แล้วธุรกิจของเราขึ้นไปแสดงบน Search Engine ก็จะทำให้ลูกค้าเข้ามาดูข้อมูล มาซื้อสินค้าในเว็บไซต์ของเรานั่นเอง สามารถโฆษณาเพื่อโปรโมทได้
–Google ยังมีบริการที่ให้เจ้าของเว็บไซต์สามารถโฆษณา สินค้า และบริการต่างๆ ผ่าน Google Ads ช่วยให้หน้าเพจของเราไปแสดงอยู่บนหน้าแรกของ Google ได้ทันที ปัจจุบันวิธีนี้ก็ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และสร้างยอดขายให้ธุรกิจได้จริง เหมาะกับเว็บไซต์ E-Commerce
–เพราะอัลกอริธึมของ Google มีการเรียนรู้ว่าคนเสิร์ชต้องการค้นหาอะไร หากมีผู้ใช้งานค้นหาสินค้าใน Google ระบบก็จะรวบรวมร้านค้าออนไลน์มาให้กับลูกค้า แน่นอนว่าถ้าเว็บไซต์ของเราถูกนำไปแสดง มันก็สามารถสร้างยอดขายให้กับเราได้เช่นกัน
เริ่มต้นด้วย Search Engine Optimization (SEO)
ถ้าคุณต้องการให้ธุรกิจของคุณประสบความสำเร็จจาก Search Engine การที่เว็บไซต์ของคุณต้องติดอันดับสูงในผลการค้นหาคือสิ่งสำคัญ และนี่คือที่ SEO (Search Engine Optimization) มาเช่นด้านในตอนที่ 4 คุณจะได้เรียนรู้ว่า SEO คืออะไร และวิธีการทำ SEO เพื่อให้เว็บไซต์ของคุณติดอันดับสูงใน Search Engine
ทำไม SEO ถึงสำคัญ
SEO เป็นสิ่งที่ทุกธุรกิจออนไลน์ควรใส่ใจ เพราะมันมีผลโดยตรงกับการติดอันดับใน Search Engine ถ้าคุณไม่ทำ SEO เว็บไซต์ของคุณจะมีความเสี่ยงที่จะไม่ปรากฏในผลการค้นหาหรือปรากฏในอันดับล่าง ซึ่งจะทำให้ลูกค้าไม่พบเว็บไซต์ของคุณและเลือกไปยังคู่แข่ง
ประโยชน์ของ SEO
-เพิ่มความน่าเชื่อถือ: เว็บไซต์ที่ติดอันดับสูงในผลการค้นหามักถูกพิจารณาว่าเป็นเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือมากขึ้น
-เพิ่มยอดขาย: การติดอันดับสูงช่วยเพิ่มโอกาสให้ลูกค้าค้นพบสินค้าหรือบริการของคุณและทำการซื้อ
-ลดค่าใช้จ่ายในโฆษณา: เมื่อเว็บไซต์ของคุณติดอันดับสูง คุณไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินโฆษณาเพิ่มเติมเหมือนการโฆษณาทางอื่น
-เพิ่มการเข้าชมเว็บไซต์: การติดอันดับสูงช่วยเพิ่มจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ของคุณ
-สร้างยอดขายยั่วๆ: เว็บไซต์ที่ติดอันดับสูงมักสร้างยอดขายมากกว่าคู่แข่ง
ทำ SEO ด้วยตัวเองหรือใช้บริการ
คุณสามารถเรียนรู้วิธีการทำ SEO และทำเองได้ หรือถ้าคุณไม่มีเวลาหรือความรู้ SEO คุณสามารถใช้บริการ SEO จากบริษัทที่เชี่ยวชาญเรื่องนี้ บริการ SEO จะช่วยวางแผนและดำเนินการเพื่อให้เว็บไซต์ของคุณติดอันดับสูงในผลการค้นหา แต่ต้องระวังเลือกบริษัทที่มีความน่าเชื่อถือและประสบการณ์เพียงพอ
สรุป
Search Engine เป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับค้นหาข้อมูลในโลกอินเตอร์เน็ต และเป็นช่องทางสำคัญในการโฆษณาและเพิ่มยอดขายสำหรับธุรกิจออนไลน์ การทำ SEO เป็นวิธีที่สำคัญในการให้เว็บไซต์ของคุณติดอันดับสูงในผลการค้นหาของ Search Engine และช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและยอดขายของธุรกิจของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ