SEO vs Google Ads อยากโปรโมทเว็บไซต์ให้ปังเลือกทำอะไรดี

SEO vs Google Ads อยากโปรโมทเว็บไซต์ให้ปังเลือกทำอะไรดี

เส้นทางการตลาดออนไลน์: SEO หรือ Google Ads?

เมื่อเราพูดถึงการโปรโมทเว็บไซต์ในโลกออนไลน์ที่แพร่หลายอย่างกว้างขวางนี้ คงไม่พ้นจากการสงสัยว่า SEO และ Google Ads ต่างกันอย่างไร สำหรับนักการตลาด ผู้ที่ทำธุรกิจของตนเอง หรือแม้กระทั่งบุคคลทั่วไป บางครั้งอาจจะเคยได้ยินเกี่ยวกับทั้งสองแนวทางนี้ ซึ่งเป็นการโฆษณาออนไลน์ที่เหมาะกับเป้าหมายของคุณมากที่สุด ผู้ที่ทำธุรกิจออนไลน์ หรือแม้กระทั่งคนทั่วไปก็อาจจะเคยได้ยินกันมาบ้างเกี่ยวกับการทำการตลาดออนไลน์ ซึ่งมีทั้งมีค่าใช้จ่าย หรือไม่มีค่าใช้จ่ายก็ตามครับ

SEO คืออะไร?

SEO หรือ Search Engine Optimization คือ การเพิ่มประสิทธิภาพปรับแต่งโครงสร้างเนื้อหาเว็บไซต์ให้มีคุณภาพมากขึ้น การทำ SEO นั้นเราจะต้องมีเนื้อหาและคีย์เวิร์ดที่ไปในทิศทางเดียวกัน ตรงกับความต้องการของกลุ่มลูกค้าที่เป็นเป้าหมายของคุณ

1.การผสมผสาน SEO กับ Content

การทำ SEO นิยมผสมผสานไปกับการทำ Content สรรค์ด้านเนื้อหาที่สามารถตอบโจทย์และความต้องการของคนอ่าน ซึ่งเราจะใช้คีย์เวิร์ดที่เหมาะสมกับการขายสินค้าหรือบริการของเรา นำมาสอดแทรกไปกับ Content การขายบนเว็บไซต์ของเราเพื่อให้ลูกค้าที่เข้ามาประทับใจกับเว็บไซต์

2.ระยะเวลาในการทำ SEO

การทำ SEO ใช้ระยะเวลานานกว่า Google Ads โดยทั่วไปแล้วต้องใช้เวลาอย่างน้อย 6 เดือน แต่! เมื่อเว็บไซต์ของคุณติดลมบนแล้ว จะอยู่บนหน้า Google ได้นานและไม่หายไปเหมือนกับการทำ Google Ads

3.ข้อดีของการทำ SEO

ข้อดีในการทำ SEO คือยอดคนที่กดเข้ามาเว็บไซต์ของคุณจะเป็นแบบธรรมชาติ (Organic List) ซึ่งหมายความว่า เป็นกลุ่มคนจริง ๆ ที่กดเข้ามา มีการเยี่ยมชมเว็บไซต์ ซึ่งจะเพิ่มโอกาสที่ทำให้เว็บไซต์ของคุณเป็นที่รู้จักมากขึ้นโดยที่ไม่เสียค่าบริการ

SEO ช่วยเว็บไซต์อย่างไร?

การทำ SEO ช่วยให้เว็บไซต์ของคุณติดอันดับหน้าแรกบน Google ได้ โดยที่ไม่ต้องจ่ายค่าบริการ การทำ SEO นี้มักผสมผสานกับการสร้างเนื้อหาที่เป็นประโยชน์และตอบโจทย์ความต้องการของผู้อ่าน เมื่อเว็บไซต์ของคุณติดลมบน Google ผู้เข้าชมเว็บไซต์จะเป็นกลุ่มคนจริง ๆ ที่มีโอกาสที่จะกลับมาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของคุณอีก โดยที่คุณไม่ต้องจ่ายค่าบริการใด ๆ

Google Ads คืออะไร?

จากนั้นมาทำความรู้จักกับ Google Ads หรือ Google Adwords ซึ่งเป็นบริการจาก Google ที่ช่วยโปรโมทเว็บไซต์ของคุณบนหน้า Google ทันที คุณจะต้องเสียเงินในการทำโฆษณานี้ โดยค่าใช้จ่ายจะขึ้นกับจำนวนครั้งที่คนคลิกเข้ามาที่โฆษณาของคุณ

1.การโฆษณาแบบมีค่าใช้จ่าย

แต่! ต้องเสียเงินทำโฆษณาเรียกว่า PPC (Pay Per Click) ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง คุณจะเสียเงินเมื่อมีคนคลิกเข้ามาที่โฆษณาของคุณ

2.ข้อดีของการทำ Google Ads

ข้อดีในการทำ Google Ads คือเร็วและเห็นผลไว ที่ช่วยให้อันดับของเว็บไซต์ขึ้นมาอยู่บน Google ได้ทันที และคุณสามารถควบคุมงบประมาณค่าใช้จ่ายได้

Google Ads ช่วยเว็บไซต์อย่างไร?

Google Ads เป็นอีกทางเลือกที่ช่วยให้เว็บไซต์ของคุณขึ้นอันดับบน Google ได้อย่างรวดเร็ว การโฆษณาที่คุณจ่ายเงินจะทำให้เว็บไซต์ของคุณปรากฏในผลการค้นหาของ Google ทันที แต่ค่าใช้จ่ายจะขึ้นอยู่กับจำนวนครั้งที่คนคลิกที่โฆษณาของคุณ

เปรียบเทียบค่าใช้จ่าย

1.ค่าใช้จ่าย Google Ads

ค่าใช้จ่ายใน Google Ads มีรูปแบบที่คุณสามารถตั้งงบประมาณต่อวันได้ว่าต้องการใช้เงินลงไปกับการโฆษณามากน้อยแค่ไหน แต่ต้องเสียเงินตามจริงเมื่อมีคนคลิกเข้ามาที่โฆษณาของคุณ

2. ค่าใช้จ่าย SEO

สำหรับการทำ SEO อาจจะมีค่าใช้จ่ายแฝง เช่น หากคุณไม่เขียนบทความเอง ก็อาจจะต้องจ้าง SEO Specialist เข้ามาช่วยในส่วนนี้ ซึ่งราคาก็จะต่างกันออกไปในแต่ละทีม

การเลือกใช้ร่วมกัน

การเลือกใช้ SEO และ Google Ads ควบคู่

การทำ SEO และ Google Ads ไม่จำเป็นต้องเป็นสิ่งที่ขัดแย้งกัน ในบางกรณี การใช้ทั้งสองแนวทางนี้พร้อม ๆ กันอาจเป็นทางเลือกที่ดี เราสามารถลดงบประมาณค่าใช้จ่ายใน Google Ads และเพิ่มโอกาสให้ลูกค้าเข้าถึงธุรกิจของคุณได้ดีทีเดียว โดยที่ของคุณยังคงติดอันดับใน Google อยู่เมื่อเว็บไซต์ของเราติดอันดับดีขึ้นด้วย SEO และยังคงเพิ่มโอกาสให้ผู้เข้าชมเว็บไซต์มากขึ้น

ข้อเสียของทั้งสอง

ข้อเสียของ Google Ads

ข้อเสียในการทำ Google Ads คือค่าใช้จ่ายสูงและไม่ได้การันตียอดขายถ้าเทียบกับเงินที่เสียไป และเมื่อหยุดทำ Google Ads เว็บไซต์ของคุณก็จะหายไปจากหน้า Google

ข้อเสียของ SEO

ข้อเสียในการทำ SEO คือใช้ระยะเวลานาน 6 เดือนถึงจะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลง และต้องอาศัยความเชี่ยวชาญและเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการปรับปรุงเว็บไซต์ เพราะ SEO จะใช้เวลาที่ยาวนานกว่า Traffic จะขึ้น

สรุป

ในการเลือกใช้รูปแบบการโปรโมทเว็บไซต์ระหว่าง SEO และ Google Ads คุณควรพิจารณาความต้องการและงบประมาณของคุณอย่างละเอียด การทำ SEO จะช่วยให้เว็บไซต์คุณติดอันดับอย่างมั่นคงและยาวนาน ในขณะที่ Google Ads จะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณขึ้นอันดับได้อย่างรวดเร็ว คุณยังสามารถควบคุมงบประมาณค่าใช้จ่ายได้อย่างแม่นยำ

อย่างไรก็ตาม ควรทราบว่าทั้งสองแนวทางนี้มีข้อดีและข้อเสียของตัวเอง คุณอาจต้องลงทุนเวลาในการศึกษาและวางแผนให้เหมาะสมกับธุรกิจหรือเว็บไซต์ของคุณ อย่างใดอย่างหนึ่งหรือการใช้ทั้งคู่ ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์และทรัพยากรของคุณ