การขายของออนไลน์: เลือกช่องทางใหนดีสำหรับธุรกิจของคุณ?

การขายของออนไลน์: เลือกช่องทางใหนดีสำหรับธุรกิจของคุณ?

การขายสินค้าออนไลน์กำลังเป็นที่นิยมในยุคปัจจุบัน เพื่อเติมเต็มโอกาสของธุรกิจของคุณให้เติบโตอย่างมากที่สุด คุณจำเป็นต้องเลือกช่องทางการขายที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณ ในบทความนี้เราจะสำรวจห้าช่องทางที่คุณสามารถขายสินค้าออนไลน์ได้และรู้จุดเด่นและข้อจำกัดของแต่ละอย่าง เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้ถูกต้อง

1.ขายของออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ขายของออนไลน์

เว็บไซต์ขายของออนไลน์คือช่องทางแรกที่ไม่ว่าใครก็น่าจะคุ้นกัน เวลาหาข้อมูลอะไรมักจะมีเว็บไซต์เลือกชมอยู่เสมอ โดยหลายธุรกิจก็มีเว็บไซต์เป็นของตัวเองมานานแล้ว เช่น ธุรกิจการท่องเที่ยว ธุรกิจโรงแรม หรือการขายสินค้าผ่านอีคอมเมิร์ซ ที่สามารถซื้อขายผ่านหน้าเว็บไซต์ได้เลย ซื้อ-จ่าย-จบ ซึ่งข้อดีข้อเสียคือ

ข้อดี:

-คุณเป็นเจ้าของเว็บไซต์โดยสมบูรณ์แบบ ใช้คนเดียว ไม่ต้องกลัวว่าแอปขายของจะล่ม

-ไม่ต้องเสียค่าคอมมิชชัน และรับเงินเข้าบัญชีของคุณได้โดยตรง

-มีพื้นที่ให้ใช้ฟรี ๆ อีกด้วย โดยไม่ต้องเสียเงินซื้อค่าโดเมนให้ยุ่งยาก

ข้อเสีย:

-เป็นเจ้าของเว็บไซต์เองก็คงจะยากมาก ๆ สำหรับนักขายมือใหม่

-ถ้าเป็นเว็บไซต์โดเมนฟรีจึงทำให้ไม่ปลอดภัย 100% และควรซื้อโดเมนเอง

2.ขายของออนไลน์ผ่าน Facebook: แพลตฟอร์มการตลาดที่ทุกคนรู้จัก

ทุกคนน่าจะคุ้นชิน Facebook และเป็นแพลตฟอร์มที่เหมาะแก่การทำการตลาดมาก ๆ เพราะมีเมนูภาษาไทยให้เลือกใช้ คนไทยส่วนใหญ่ก็เล่น Facebook ไม่น้อยกว่าแอปพลิเคชันอื่น ๆ เรียกได้ว่าขายสินค้าได้ทุกประเภท ข้อดีและข้อเสียคือ

ข้อดี:

-มีเมนูภาษาไทย ใช้งานง่าย สามารถทำคอนเทนต์ขายของใน Facebook ได้หลายประเภท

-สามารถใส่ลิงก์ที่โยงไปหน้าเว็บไซต์ของร้านค้าได้

-สามารถยิงโฆษณาสินค้าได้ตามตรงกลุ่มเป้าหมาย

ข้อเสีย:

-เมื่อเป็นเซิร์ฟเวอร์ตรงกลาง อาจมีโอกาสในการล่ม

-ต้องผูกอีเมลและเบอร์โทรไว้ที่เจ้าของด้วย อาจมีโอกาสโดนบล็อก ปิดกั้นโพสต์ หรือโดนยกเลิกแอคเคานท์

3.ขายของออนไลน์ผ่านอินสตาแกรมร้านค้า: การตลาดที่เน้นความสวยงาม

หลายปีให้หลังมานี้ไม่ได้มีการขายของออนไลน์ผ่านเพจใน Facebook อีกต่อไป เพราะมีแม่ค้าพ่อค้าออนไลน์แจ้งเกิดจากการขายของผ่านอินสตาแกรมกันเยอะมาก ๆ ซึ่งอินสตาแกรมมีไว้เพื่อลงรูป ขายไลฟ์สไตล์ ข้อดีและข้อเสียคือ

ข้อดี:

-สามารถทำคอนเทนต์รูปภาพสวย ๆ เพื่อเรียกลูกค้าได้เลย

-ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่ชอบดูรูปสวย ๆ และเห็นการถ่ายรูปสินค้าแบบมืออาชีพ

ข้อเสีย:

-การขายของในอินสตาแกรมจะมีความยากลำบากเรื่องใส่ลิงก์

-ต้องมีความครีเอทีฟมาก ๆ ในการสร้างสรรค์คลิปสั้นให้เป็นที่จดจำมากกว่าคนอื่น

4.ขายของออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชัน TikTok: ความครีเอทีฟแห่งการขาย

แอปพลิเคชัน TikTok เป็นแอปพลิเคชันที่มาแรงมาก ๆ และเป็นแพลตฟอร์มที่เอาไว้ลงคลิปสั้น ๆ ตลกและสนุก แล้วในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านก็มีโควิด 19 ระบาด แอป TikTok เลยกลายเป็นแหล่งคลายเครียดของคนไทยเป็นอย่างดี ข้อดีและข้อเสียคือ

ข้อดี:

-แอปพลิเคชัน TikTok เป็นคอมมูนิตี้ของไอเดียขายของสุดครีเอทีฟ

-มีเครื่องมือที่หลากหลายไว้ให้ใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นฟิลเตอร์สวย ๆ แผ่นเสียงเพลงฮิตมากมาย และการโต้ตอบคนอื่น ๆ ด้วยคลิป

ข้อเสีย:

-ต้องมีความครีเอทีฟมาก ๆ ในการสร้างสรรค์คลิปสั้นให้เป็นที่จดจำมากกว่าคนอื่น

-บางวันคุณอาจจะคิดอะไรไม่ออกเลย เพราะหัวตัน

5.ขายของออนไลน์ผ่านแอปขายของ หรือ Marketplace: ความสะดวกสบายในการซื้อขาย

ขายของออนไลน์ที่ไหนดี ถ้าคิดไม่ออกจริง ๆ ก็มาใช้งาน Marketplace เลย มีทุกอย่างให้คุณใช้งานอย่างครบครัน ทั้งเครื่องมือทั้งการจ่ายเงิน ข้อดีและข้อเสียคือ

ข้อดี:

-มีระบบสต๊อคสินค้าให้ใช้งานในแอปพลิเคชันเลย

-มีระบบการติดตามการขนส่งสินค้า

-มีช่องทางให้ลูกค้ามารีวิวการใช้บริการของร้านค้าอีกด้วย

-มีระบบจ่ายเงินที่ครบครัน ทั้งจ่ายด้วยบัตรเดบิต บัตรเครดิต

ข้อเสีย:

-แอปขายของเหล่านี้จะมีแบบให้ขายฟรีและเสียเงิน

-ต้องมีการโปรโมทร้านค้าในตัวด้วย แล้วที่สำคัญการซื้อขายผ่านแอปขายของทางแอปต้นทางก็จะเก็บค่าคอมมิชชันด้วย ไม่ได้ซื้อขายกันฟรี ๆ

สรุป 

 “การขายของออนไลน์ที่ไหนดี” ก็อยู่ที่ร้านค้าว่าจะเลือกแพลตฟอร์มใดในการขายสินค้า อยากลงรูปสวย ๆ อยากทำวิดีโอ อยากถ่ายรูปสวย ๆ หรืออยากทำคลิปสั้น ๆ ก็สามารถเลือกได้ เพราะแต่แพลตฟอร์มมีฟังก์ชันให้เลือกใช้งานที่แตกต่างกัน และกรุณาตรวจสอบข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้งานของแต่ละแพลตฟอร์มก่อนที่จะเริ่มขายสินค้าออนไลน์เพื่อให้แน่ใจว่าคุณเป็นไปตามข้อกำหนดและกฎระเบียบที่กำหนดขึ้นโดยแพลตฟอร์มนั้น ๆ และไม่ละเมิดข้อกำหนดใด ๆ ที่อาจทำให้บัญชีของคุณถูกลบหรือบล็อก

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *


The maximum upload file size: 2 GB.
You can upload: image.