ภาษีมูลค่าเพิ่มคืออะไร? และใครบ้างที่ต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม

ภาษีมูลค่าเพิ่มคืออะไร? และใครบ้างที่ต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม

ภาษีมูลค่าเพิ่มหรือ VAT (Value Added Tax) เป็นหนึ่งในระบบภาษีที่มีความสำคัญในการเสริมสร้างรายได้ของรัฐ แต่ละประเทศ โดยอัตราที่ผู้ประกอบการจะเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มในประเทศไทยคือ 7% จากมูลค่าที่เพิ่มขึ้นในแต่ละขั้นตอนของกระบวนการผลิตและจำหน่ายสินค้าหรือบริการ ในบทความนี้เราจะสำรวจและอธิบายในรายละเอียดเกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม และผู้ที่ต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มตามกฎหมายของประเทศไทย

ภาษีมูลค่าเพิ่มคืออะไร?

ภาษีมูลค่าเพิ่มหรือ VAT คือระบบการเก็บภาษีที่เกิดจากการขายสินค้าหรือการให้บริการในแต่ละขั้นตอนของกระบวนการผลิตและจำหน่ายสินค้าหรือบริการ ภาษีนี้จะถูกคิดคำนวณและเรียกเก็บโดยอัตราที่กำหนดไว้ตามกฎหมาย ในประเทศไทย อัตราภาษีมูลค่าเพิ่มที่ผู้ประกอบการจะต้องเก็บคือ 7% ของมูลค่าที่เพิ่มเข้ามาในสินค้าหรือบริการ

ใครบ้างที่ต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม?

1.ผู้ประกอบกิจการที่มีรายได้เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี

ถ้าคุณเป็นผู้ประกอบการและมีรายได้จากการขายสินค้าหรือบริการเกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี คุณจะต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม

2.ผู้ประกอบกิจการขายสินค้าหรือบริการที่อยู่ในข้อบังคับต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม

บางกลุ่มธุรกิจเป็นผู้ประกอบการที่อยู่ในข้อบังคับต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ไม่ว่ารายได้จะเกินเท่าไร อย่างเช่น การก่อสร้างโรงงานหรือติดตั้งเครื่องจักร

3.ผู้ประกอบการอยู่นอกราชอาณาจักรและขายสินค้าหรือบริการในราชอาณาจักร

ถ้าคุณอยู่นอกราชอาณาจักรแต่มีการขายสินค้าหรือบริการในราชอาณาจักร คุณจะต้องมีตัวแทนในราชอาณาจักรและให้ตัวแทนรับผิดชอบในการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม

ใครบ้างที่ได้รับ ‘ยกเว้น’ ภาษีมูลค่าเพิ่ม?

1.ผู้ประกอบการขายสินค้าพืชผลทางการเกษตรและสัตว์

บางธุรกิจที่ขายสินค้าเช่นพืชผลทางการเกษตรหรือสัตว์ไม่ว่ามีชีวิตหรือไม่มีชีวิต จะได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม

2.ผู้ประกอบการที่รายรับไม่เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี

ถ้าคุณไม่มีรายรับมากกว่า 1.8 ล้านบาทต่อปีและไม่ขายสินค้าหรือบริการที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มตามกฎหมาย คุณไม่จำเป็นต้องจดทะเบียน

3.การให้บริการขนส่งในราชอาณาจักรโดยท่าอากาศยาน

ผู้ให้บริการขนส่งในราชอาณาจักรโดยท่าอากาศยานก็ได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม

4.การส่งออกของผู้ประกอบการในเขตอุตสาหกรรมส่งออก

สำหรับผู้ประกอบการในเขตอุตสาหกรรมส่งออกตามกฎหมายว่าด้วยการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ยังได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม

5.การให้บริการขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิงทางท่อในราชอาณาจักร

ผู้ให้บริการขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิงทางท่อในราชอาณาจักรยังได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม

ผู้ประกอบการที่ ‘ไม่ต้อง’ จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม

1.ผู้ประกอบการที่มีรายรับไม่เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี

ผู้ประกอบการที่มีรายรับจากการขายสินค้าหรือให้บริการไม่เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปีจะไม่ต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม

2.ผู้ประกอบการที่ขายสินค้าหรือให้บริการที่ได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มตามกฎหมาย

ผู้ประกอบการที่ขายสินค้าหรือให้บริการที่ได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มตามกฎหมายจะไม่ต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม

3.ผู้ประกอบการที่ให้บริการจากต่างประเทศ และมีการใช้บริการนั้นในราชอาณาจักร

ผู้ประกอบการที่ให้บริการจากต่างประเทศ และมีการใช้บริการนั้นในราชอาณาจักรจะไม่ต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม

4.ผู้ประกอบการที่อยู่นอกราชอาณาจักรและเข้ามาประกอบกิจการขายสินค้าหรือให้บริการในราชอาณาจักรเป็นครั้งคราว

ผู้ประกอบการที่อยู่นอกราชอาณาจักรและเข้ามาประกอบกิจการขายสินค้าหรือให้บริการในราชอาณาจักรเป็นครั้งคราวต้องเป็นไปตามเงื่อนไขของกรมสรรพากร

ข้อควรรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับภาษีเพิ่มเติม

ภาษีขาย: คือภาษีมูลค่าเพิ่มที่ร้านค้าเรียกเก็บจากลูกค้าเมื่อขายสินค้า

ภาษีซื้อ: คือภาษีมูลค่าเพิ่มที่ร้านค้าจ่ายให้กับผู้ขาย (ที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มเหมือนกัน) เมื่อซื้อสินค้า

สรุป

ภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นส่วนสำคัญของระบบภาษีในประเทศไทย โดยผู้ประกอบการต้องจดทะเบียนและเรียกเก็บภาษีนี้ตามกฎหมาย แต่ก็มีบางกลุ่มที่ได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มตามกฎหมาย การเข้าใจเรื่องนี้จะช่วยให้คุณประหยัดเงินและประสบความสำเร็จในธุรกิจของคุณอย่างมั่นใจ อย่าลืมที่จะติดตามกฎหมายภาษีอย่างใกล้ชิดเสมอ เพื่อประหยัดเวลาและเงินในอนาคต