8 สัญญาณอันตราย “โรคแพ้ภูมิคุ้มกันตัวเอง SLE ลูปัส หรือโรคพุ่มพวง”
8 สัญญาณอันตราย “โรคแพ้ภูมิคุ้มกันตัวเอง SLE ลูปัส หรือโรคพุ่มพวง”
โรคแพ้ภูมิคุ้มกันตัวเอง เป็นอย่างไร?
โรคแพ้ภูมิคุ้มกันตัวเอง SLE ลูปัส หรือโรคพุ่มพวง เป็นโรคที่เกิดจากภาวะที่ร่างกายสร้างสารภูมิคุ้มกันต้านทานผิดปกติ โดยเข้าไปต่อต้านเนื้อเยื่อ หรืออวัยวะต่างๆ ในร่างกาย เป็นผลทำให้เกิดการอักเสบเรื้อรังในบริเวณนั้น
อาการของโรคแพ้ภูมิคุ้มกันตัวเอง
สัญญาณอันตรายที่เป็นอาการเริ่มต้นของโรคแพ้ภูมิคุ้มกันตัวเอง มีหลากหลายอาการขึ้นอยู่กับบริเวณที่เกิดความผิดปกติจนมีอาการอักเสบในระยะแรก ไปจนถึงระยะเรื้อรังที่อาจเริ่มเกี่ยวพันกับอวัยวะส่วนอื่นๆ
1.อาการผิดปกติทั่วไป
- เช่น ปวดศีรษะ
 - อ่อนเพลีย
 - เบื่ออาหาร
 - ผอมลง
 
2.อาการทางผิวหนัง
- มีผื่นแดง
 - ขึ้นบริเวณใบหน้า ช่วงตรงกลาง และโหนกแก้มทั้งสองข้าง
 - รูปร่างคล้ายผีเสื้อ
 - อาจมีอาการผมร่วงด้วย
 
3.อาการปวดข้อ
- ปวดกล้ามเนื้อ
 - อาจไม่มีอาการบวมแดง
 - ปวดได้ทุกส่วนที่มีข้อ เช่น ข้อเข่า ข้อเท้า ข้อมือ ข้อนิ้ว
 
4.อาการทางปอด
- เจ็บหน้าอก
 - ไอ
 - ปอดเยื่อหุ้มปอดอักเสบ
 - มีน้ำในปอด
 - เหนื่อยง่าย
 - เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ
 - หัวใจเต้นผิดปกติ
 
5.อาการทางระบบทางเดินอาหาร
- คลื่นไส้
 - อาเจียน
 - ปวดท้อง
 - เบื่ออาหาร
 
6.อาการทางไต
- ความดันโลหิตสูง
 - ขาบวม จากการบวมน้ำ
 
7.อาการทางระบบโลหิต
- โลหิตจาง
 - ภาวะซีด
 - ความดันโลหิตต่ำ
 - เม็ดเลือดขาวต่ำ
 - เกล็ดเลือดต่ำ
 - หลอดเลือดอักเสบ
 - อาจจะพบเป็นจุดแดงๆ เล็กๆ ทั่วตัวคล้ายไข้เลือดออก
 
8.อาการทางระบบประสาท
- มีอาการชักโดยไม่ทราบสาเหตุ
 - แขนขาอ่อนแรง
 - ไม่มีสมาธิ
 - เครียด
 - นอนไม่หลับ
 - ซึมเศร้า
 - วิตกกังวล
 - มีปัญหาในการจำ
 - สับสน
 - เห็นภาพหลอน
 - โดยอาจเป็นผลข้างเคียงมาจากอาการเยื่อหุ้มสมองอักเสบอีกทีได้
 
การรักษาโรคแพ้ภูมิคุ้มกันตัวเอง
แพทย์จะพยายามควบคุมโรคให้สงบด้วยการให้ทานยา ทำการรักษาตามอาการที่พบ และติดตามอาการไปเรื่อยๆ จนกว่าอาการจะสงบ หากเข้ารับการรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ จะยิ่งทำให้แพทย์ทำการรักษา และควบคุมอาการได้ดีขึ้น จนไม่มีอะไรต้องน่ากลัว หรือถึงขั้นเสี่ยงเสียชีวิต.