อาการ “เพลีย ง่วง เบื่อ” และวิธีการแก้ไข
อาการ “เพลีย ง่วง เบื่อ” และวิธีการแก้ไข
ทำไมคุณรู้สึก “เพลีย ง่วง เบื่อ”?
การที่ร่างกายมีอาการเหล่านี้
คุณกำลังมีอาการเหล่านี้หรือเปล่า?
- อ่อนเพลีย
- ไม่สดชื่น กระปรี้กระปร่า
- นอนหลับยาก หลับๆ ตื่นๆ นอนไม่เต็มอิ่ม
- ง่วงนอนตอนกลางวัน
- มีภาวะเครียดสะสม
- หงุดหงิดง่าย บางครั้งหดหู่
- รู้สึกเบื่อ ขาดแรงจูงใจ
- บางครั้งมีภาวะซึมเศร้า
ถ้าใช่ แสดงว่าคุณกำลังมีอาการ “เพลีย ง่วง เบื่อ เรื้อรัง” ซึ่งอาจทำให้คุณรู้สึกไม่สบายและมีผลกระทบต่อคุณในชีวิตประจำวัน แต่ไม่ต้องกังวลมาก เพราะเราจะพาคุณไปค้นหาสาเหตุและวิธีการแก้ไขอย่างเหมาะสม
สาเหตุของอาการ “เพลีย ง่วง เบื่อ”
1. ภาวะฮอร์โมนไม่สมดุล
ฮอร์โมนเป็นสิ่งที่ควบคุมการทำงานของร่างกายแทบทุกระบบ หากฮอร์โมนไม่สมดุล เช่น ฮอร์โมนเรียกให้เกิดความตื่นเต้น หรือฮอร์โมนควบคุมการนอน คุณอาจรู้สึกง่วง ไม่สดชื่น และมีความเมื่อยล้า อาการเหล่านี้อาจมาจากการไม่สมดุลของฮอร์โมนในร่างกาย ซึ่งอาจทำให้คุณรู้สึกง่วงนอนและอ่อนเพลียมากขึ้น
2. ขาดสารอาหาร
การรับประทานอาหารที่ไม่ครบหมู่หรือขาดสารอาหารสำคัญ เช่น วิตามินและแร่ธาตุ สามารถทำให้คุณรู้สึกอ่อนเพลียและง่วงได้ อาหารที่ไม่ครบหมู่ทำให้เสี่ยงต่อโรคภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอได้ ร่างกายขาดพลังงาน ทำให้คุณรู้สึกอ่อนเพลียและไม่สดชื่น
3. การไหลเวียนเลือดติดขัด
ปัญหาในการไหลเวียนเลือด เช่น ลิ่มเลือดหรือการตีบของหลอดเลือด สามารถทำให้เลือดไม่ไหลผ่านไปถึงอวัยวะได้เพียงพอ ซึ่งอาจเป็นสาเหตุของความเมื่อยล้าและหงุดหงิด การไหลเวียนเลือดที่ไม่ดีอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้คุณรู้สึกอ่อนเพลีย และทุกข์ยากในการตื่นมาในเช้า
4. ออกซิเจนระดับเซลล์ไม่เพียงพอ
เซลล์ของร่างกายต้องการออกซิเจนเพื่อทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ หากมีปัญหาในการออกซิเจนถึงเซลล์ เช่น การหายใจไม่เพียงพอ คุณอาจรู้สึกอ่อนเพลียและง่วง
5. การสะสมของเสีย
ร่างกายมีระบบที่ช่วยกำจัดของเสียและพิษออกจากร่างกาย หากระบบนี้ไม่ทำงานอย่างถูกต้อง สารพิษอาจสะสมในร่างกายและทำให้คุณรู้สึกอ่อนเพลีย การสะสมของสารต่างๆ ในร่างกายอาจส่งผลให้คุณรู้สึกเบื่อและมีภาวะซึมเศร้าบางครั้ง
การรักษาอย่างถูกวิธี
หากคุณพบว่าคุณมีอาการ “เพลีย ง่วง เบื่อ” คุณไม่ควรปล่อยให้มันก่อให้เกิดโรคร้ายแรงในอนาคต นี่คือขั้นตอนที่คุณควรทำ
1.พบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ: หากคุณมีอาการเหล่านี้ควรพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทันที เพื่อให้ได้การวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสม
2.ตรวจสุขภาพอย่างละเอียด: การตรวจร่างกายอย่างละเอียดในระดับเซลล์จะช่วยให้คุณรับการวินิจฉัยที่ถูกต้อง
3.การรักษาตามความเหมาะสม: การรักษาอาจเป็นการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดูแลสุขภาพ การรับประทานยา หรือการฝึกฝนและออกกำลังกาย
การป้องกัน
หลังจากที่คุณได้รับการรักษาและกลับมาสุขภาพดี เราต้องใส่ใจกับการป้องกันเพื่อไม่ให้อาการ “เพลีย ง่วง เบื่อ” กลับมาอีกครั้ง นี่คือวิธีการป้องกัน:
- รักษาโภชนาการ: รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เพิ่มผักผลไม้และโปรตีนในอาหารของคุณ
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ: การออกกำลังกายช่วยเพิ่มพลังงานและการไหลเวียนเลือดในร่างกาย
- รับการตรวจสุขภาพประจำ: การตรวจสุขภาพประจำเป็นวิธีที่ดีในการตรวจสอบสุขภาพของคุณและรับคำแนะนำจากแพทย์
อาการ “เพลีย ง่วง เบื่อ” อาจไม่ใช่โรคร้ายแรง แต่ควรระมัดระวังและดูแลสุขภาพอย่างดี เพื่อให้คุณสามารถกลับมาสู่ชีวิตปกติได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีคุณภาพชีวิตที่ดีกันอีกครั้ง